The Heart is a Lonely Hunter
ผู้เขียน คาร์สัน แม็คคัลเลอร์ส ผู้แปล จุฑามาศ แอนเนียน
บรรณาธิการต้นฉบับ สุนันทา วรรณสินธ์ เบล
ผู้ออกแบบปก Typhoon Studio
จำนวน 400 หน้า ราคาปก 400 บาท
ปีที่พิมพ์ 2559 ISBN 978-616-92462-1-3
__________________
หัวใจคือนักล่าผู้ว้าเหว่ พูดถึงหลายชีวิตที่แตกต่างกันทั้งวัย เพศ สถานะ ความคิด ความเชื่อ หากแต่เชื่อมโยงกันได้ด้วย “ความเหงา” ในแบบของตัวเอง อารมณ์อันเป็นสามัญและสากลนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของนวนิยายที่ทำให้มันเข้าถึงคนอ่านจำนวนมาก สิ่งที่ทำให้ความเหงาในแบบฉบับแม็คคัลเลอร์สมีพลังกระทบจิตใจอย่างพิเศษ น่าจะเป็นเพราะว่ามันผสมผสานเอาเงื่อนไขทางสังคมที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงเข้าไปเป็นปัจจัยของความโดดเดี่ยว ตัวละครของแม็คคัลเลอร์สมักจะเป็นกลุ่มคนที่ถูกมองว่าเป็น “คนนอก” หรือ “ผิดปกติ” ไม่ว่าในเชิงกายภาพ ความคิด หรือทั้งสองอย่าง คนเหล่านี้มีความขาดพร่องเป็นมิตรสหาย และมักไม่ถูกมองว่าสามารถมีอารมณ์ความรู้สึกแบบที่คน “ปกติ” มี ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความฝัน ความปรารถนา ความเศร้า รวมไปถึงความเหงาด้วย
ดังนี้ เราจึงได้เห็นความน่าขันและความน่าสงสาร ความน่าชื่นชมแต่น่ารังเกียจ เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่แต่ไร้ความสำคัญ รวมไปถึงความคลุมเครือของประเด็นต่างๆ ตั้งแต่เรื่อง 'อุดมการณ์' ไปจนถึงเรื่อง 'เพศสถานะ' ผ่านตัวละครอย่างซิงเกอร์ (Singer) ชายใบ้ผู้เป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของทุกคน มิค เด็กหญิงบุคลิกทอมบอยผู้กำลังเติบโตเป็นสาว คุณหมอชราผิวสีนามโคปแลนด์ เจค นักเคลื่อนไหวผู้ไขว่คว้าหาโอกาสสู่ความเท่าเทียม บิฟฟ์เจ้าของคาเฟ่ และตัวละครอีกมากมายที่ล้วนไล่ล่าตามหาความเข้าใจและปรารถนาจะคลายปมความคับข้องที่ไม่มีใครมองเห็น
หัวใจคือนักล่าผู้ว้าเหว่ จะทำให้เราได้ทบทวนความสัมพันธ์ต่างๆ ยอมรับความหลากหลายที่ปรากฏรอบกาย และจะทำให้เราตระหนักว่าปัจจัยสำคัญของการอยู่ร่วมกันคือ การมองเห็นความมีตัวตนของคนอื่น ยินดีรับฟังเสียงของกันและกันอย่างเห็นอกเห็นใจ และต้อง “เข้าใจ” อย่างแท้จริง
Flowers for Mrs. Harris
ผู้แต่ง พอล กาลลิโค ผู้แปล บัญชา สุวรรณานนท์
ผู้ออกแบบปก Typhoon Studio
จำนวน 144 หน้า ราคาปก 220 บาท
ปีที่พิมพ์ 2559 ISBN 978-616-92462-4-4
__________________
เรื่องราวของแม่บ้านรับจ้างชาวลอนดอน “เอด้า แฮรีส” ผู้อยากเป็นเจ้าของชุดราตรีแสนวิจิตรมูลค่าหลายร้อยปอนด์ของสำนักตัดเย็บเสื้อผ้าชั้นสูง คริสเตียง ดิออร์ เธอมุมานะเก็บหอมรอมริบอยู่สามปีจนมีวันที่ได้หอบเงินสดเป็นฟ่อนใส่กระเป๋าหนังเทียมและจับเครื่องบินมุ่งหน้าสู่มหานครปารีสเพื่อความฝันอันสวยงาม ความอุตสาหะไม่ย่อท้อต่อความลำบากบวกกับความมีน้ำใจทำให้ทุกคนที่พบเจอเธอพากันหลงรัก ประทับใจ และสำนึกในบุญคุณ ต่างพากันมอบ ‘ดอกไม้’ ให้เธอเพื่อแสดงมิตรไมตรีที่ไม่มีพรมแดนภาษาและดินแดนใดมาขวางกั้นหนังสือเล่มนี้อุทิศแด่ความพากเพียรบากบั่น สำหรับความอดทนขยันของมนุษย์งานทุกคนบนโลกนี้
Génitrix
ผู้เขียน ฟร็องซัวส์ โมริยัค ผู้แปล วัลยา วิวัฒน์ศร (แปลจากภาษาฝรั่งเศส)
ผู้ออกแบบปก wrongdesign
จำนวน 128 หน้า ราคาปก 190 บาท
ปีที่พิมพ์ 2559 ISBN 978-616-92462-3-7
__________________
“…หล่อนถูกซัดไปยังชายฝั่งชีวิต สดับเสียงดนตรียามรัตติกาลของโลกอีกครั้ง ราตรีผ่อนลมหายใจผ่านมวลใบไม้ หมู่ไม้ใหญ่ใต้แสงจันทร์กระซิบกระซาบกันโดยไม่ทำให้สกุณาผวาตื่น สายลมเย็นสะอาดจากมหาสมุทรพัดเป็นระลอกพลิ้วพลิกยอดสนสุดคณานับ แล้วระเรื่อยไล่ลงมาตามไร่องุ่นต่ำเตี้ย สอดประสานความหอมสุดท้ายแทรกหมู่ต้นติเยอลกลิ่นกรุ่นในสวนของบ้าน ในที่สุดก็มาสูญสลายลงบนใบหน้าเหนื่อยอ่อนสิ้นแรงใบหน้านี้…”
จากต้นฉบับภาษาฝรั่งเศสที่เรียงร้อยถ้อยคำสุดลึกซึ้งกินใจ สู่บทแปลภาษาไทยแสนละเมียดละไมของวัลยา วิวัฒน์ศร
มาตา หรือ Genitrix เรื่องราวการช่วงชิงอำนาจความสัมพันธ์ในคฤหาสน์ตระกูลกาเซอนาฟแห่งแคว้นลองด์ หนึ่งในงานประพันธ์โด่งดังของ ฟร็องซัวส์ โมริยัค ผู้ได้ชื่อว่าสามารถน้อมนำความงามของธรรมชาติมารจนาให้เกิดท่วงทำนองแห่งภาษาได้อย่างล้ำเลิศ
Capitães da Areia
ผู้เขียน ฌอร์จ อะมาดู ผู้แปล กอบชลี (แปลจากภาษาโปรตุเกส)
บรรณาธิการต้นฉบับ สุนันทา วรรณสินธ์ เบล
ผู้ออกแบบปก มานิตา ส่งเสริม
จำนวน 304 หน้า ราคาปก 320 บาท
ปีที่พิมพ์ 2559 ISBN 978-616-92462-2-0
__________________
เรื่องราวชีวิตของเหล่าเด็กกำพร้าผู้ถูกทอดทิ้งที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม "กัปตันเม็ดทราย" เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นี่คือเรื่องราวที่เป็นมากกว่าเรื่องเล่าของเหล่าเด็กผู้ถูกทอดทิ้ง นี่คือชีวิต คือการเดินทาง รอยยิ้ม น้ำตา และการเติบโตไปตามเส้นทางชีวิตของตนเอง
กัปตันเม็ดทราย ผลงานการเขียนของ ฌอร์จ อะมาดู นักเขียนชาวบราซิล กอบชลี ผู้แปล แปลหนังสือเล่มนี้จากภาษาโปรตุเกสโดยตรง ความเข้นข้นของเรื่องราวและอรรถรสทางวรรณศิลป์จึงยังคงอยู่ให้ผู้อ่านได้เข้าไปสัมผัสอย่างครบครันนี่คือเรื่องราวของ กัปตันเม็ดทราย กลุ่มเด็กกำพร้าถูกทอดทิ้งต้องลักขโมยตามท้องถนนและเคหะสถานเพื่อเลี้ยงชีพ ชีวิตยากไร้ที่มีแต่อิสระของพวกเขาเป็นที่รังเกียจของชาวเมืองซัลวาดอร์ รัฐบาเยีย โดยพวกเขาอาศัยในโกดังร้างแห่งหนึ่งริมท่าเทียบเรือเก่า ภายใต้กฎของกลุ่มที่จะไม่ลักขโมยกันและกัน แบ่งปัน และช่วยกันทำงาน เหล่ากัปตันเม็ดทรายล้วนเติบโต เรียนรู้ ผ่านความเจ็บปวดล้มตายไปด้วยกัน ก่อนจะเดินไปสู่หนทางชีวิตซึ่งเหมาะสมกับตัวเอง
The Great Gatsby
ผู้เขียน เอฟ. สก็อตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ ผู้แปล โตมร ศุขปรีชา
บรรณาธิการต้นฉบับ สุนันทา วรรณสินธ์ เบล
ผู้ออกแบบปก น้ำสัม สุภานันท์
จำนวน 184 หน้า ราคาปก 240 บาท
ปีที่พิมพ์ 2558 ISBN 178-616-92462-0-6
__________________
The Great Gatsby คือนวนิยายอมตะที่ฟิตซ์เจอรัลด์สามารถเก็บรายละเอียดของความเป็นมนุษย์มาเล่าเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผู้อ่านได้อย่างละมุนละไม ทำให้เราเห็นความบอบบางของมนุษย์ เห็นความเพ้อฝันเลิศลอยและเปี่ยมไปด้วยความมุ่งหวังของบุรุษสตรีผู้พยายามจะก้าวข้ามเส้นขีดจำกัดของตัวเอง ในขณะเดียวกัน ทุกหน้าทุกบทของนวนิยายเรื่องนี้คือการบอกเล่าถึงเรื่องราวที่คนคนหนึ่งไม่อาจอยู่กับปัจจุบันและโหยหาอดีตที่ไม่อาจแก้ไขย้อนคืน
The Great Gatsby เล่าผ่านท่วงทำนองภาษาแสนไพเราะ กลวิธีการเขียนทำให้เราสัมผัสความคลุมเครือสับสน และเห็นระยะห่างของหลายสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นระยะห่างของความจริงความลวง ระยะห่างของความสัมพันธ์ ระยะห่างของจุดเริ่มต้นและจุดจบของชีวิต รวมถึงแสงสีเขียววิบวับที่เห็นอยู่ไกลๆ ในสายตาของผู้ชายที่ชื่อ เจย์ แก็ตสบี้… แก็ตสบี้เชื่อแสงสีเขียว เชื่ออนาคตอันเร้าอารมณ์ซึ่งล่าถอยไปจากเราทุกปีๆ มันหลบลี้หนีเราไป แต่ไม่ว่าอย่างไร พรุ่งนี้เราจะวิ่งให้เร็วขึ้นอีก ยื่นแขนของเราให้ไกลออกไปอีก… และเช้าวันหนึ่งที่สวยสดงดงาม
เราจึงเต้นเร่าต่อ ราวเรือแล่นฝ่ากระแสน้ำมุ่งหน้าสู่อดีตไม่รู้จักหยุดหย่อน…